นาโควาทกถา (สอนนาค)
ของ
พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน)
นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส ฯ
กิจฺโฉ มนุสฺสปฎิลาโภ กิจฺฉํ มฺจฺจน ชีวิตํ
กิจฺโฉ พุทธานมุปฺปาโท กิจฺฉํ สทฺฺพฺฺธมฺฺมสฺสวนํ
ปพฺพชิโต จ ทลฺลโภ สทฺธาสมฺปนฺโน ทุลฺลโภติ
บัดนี้ จักได้แสดงพระธรรมเทศนาในการสอนนาค พอเป็นเครื่องประดับสติปัญญาบารมของท่านเจ้าภาพ พร้อมบรรดาญาติและมิตร ซึ่งได้มาประชุมพร้อมกันในที่นี้ ต่างก็มีจิตเจตนา ปรารถนาจะสดับซึงธรรมิกถา อันเป็นโอวาทานุสาสนี คำสอนของสมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อหน่วงน้าวน้ำใจให้เป็นไปในสัมมาปฎิบัติ อันเป็นประเพณีของสาธุชนพุทธบริษัท ซึงได้ประพฤติปฎิบัติสืบๆกันมา คือ ปรารถซึงบรรพชาอุปสมบทให้เป็นเดิม แล้วและคิดพูนเพิ่ม โดยมีพระธรรมเทศนาเรื่องสอนนาค เพื่อเป็นเครื่องเพิ่มเติมเฉลิมศรัทธาและปัญญาของผู้ที่จะบรพชาอุปสมบทให้เจริญยิ่งขึ้นโดยลำดับ ด้วยพระธรรมวินัยของพระผู้มีพระภารเจ้า เป็นดวงประทีปสำหรับส่องโลกให้สว่าง ด้วยโลกคือหมู่สัตว์ มืดมนอนธกาลด้วยอำนาจอวิชชาโมหะเข้าครอบงำ ทำให้ปัญญาทุพพลภาพมุ่งแต่ลาภยศ สรรเสริญ และความสุข เมาในกายว่าไม่มีโรค เมาในวัยว่าตนยังหนุ่ม เมาในชีวิตไม่คิดถึงความตาย แสวงหาแต่วัตถุที่จะเอาติดตามตนไปไม่ได้ ข้อนี้ไซร้เป็นเหตุมาแต่การขาดการฟังพระธรรมเทศนา อันเป็นโอวาทคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ฉนั้น ท่านพุทธศาสนิกชนมาเห็นโทษของการขาดการฟังธรรม จึงไม่ประมาทในการสดับฟังพระธรรมเทศนา เพื่อให้หายหลงหายเมาในวัยว่าตนยังหนุ่ม เมาในความไม่มีโรค เมาในชีวิตไม่คิดถึงความตาย เมื่อไม่เมาในสามประการดังนี้ ก็เพราะอาศัยได้สดับฟังพระธรรมเทศนา จึงได้มีศรัทธา บรรพชาอุปสมบท เรียกว่าการบวช การบวชเป็นกรณียกิจประจำชีวิตของพระพุทธศาสนิกชนมานานแล้ว ถือกันอย่างเคร่งครัดมาก เพราะการบวชเป็นการเปลี่ยนชีวิตจิตใจที่เคยฟุ้งซ่านหมกมุ่นอยู่กับเรื่องของโลก ให้ต้้งอยู่ในอาการสงบ
การบวช ถ้าบวชเป็นสามเณร เรียกว่า บรรพชา ถ้าบวชเป็นพระเรียกว่า อุปสมบท เป็นประเพณีของชาวไทย เมื่อชายมีอายุ ๒๐ ปีบริบรูณ์ ซึงเป็นอายุอยู่ในเกณฑ์ที่ถือกันว่า มีจิตใจหนักแน่น อดทนต่อความหิวกระหายและอื่นๆ ได้ ก็เตรียมตัวบวช เตรียมเครื่องอัฎบริขาร มีบาตรผ้าไตรจึวร เป็นต้น ครบบริขาร ๘ อย่าง แล้วผู้ปกครองต้องนำลูกหลานทีจะบวชไปฝากอยู่กับพระเพื่อท่องคำขานนาค และฝึกหัดซ้อมวิธีบวชในเวลาอันสมควร ตอนนี้เรียกว่านาคนี้มีความสำคัญมากกำลังมีสง่าราศีห้ามเที่ยวเตร่ เพราะถ้าไปมีเรื่องขึ้นก็จะไม่ได้บวช ผู้ปกครองจึงกวดขันลูกหลานตอนเป็นนาคมาก คำว่า นาค แปลว่า ผู้ประเสริญ ผู้ไม่ทำบาป หมายความว่าผู้ที่จะบวชเป็นผู้ประเสริฐ เป็นผู้ไม่ทำบาป ผู้บวชต้องดำรงภาวะเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา เรียก ผู้บวชนั้นว่าพระ เพราะเป็นผู้ประเสริฐ ผู้ที่จะเป็นพระที่ดีน้ันจะต้องเป็นผู้ที่ได้ยินได้ฟังได้เล่าเรียน ศึกษาพระธรรมวินัยแล้ว ประพฤติปฎิบัติตาม จึงจะเป็นผู้ประเสริฐ
ฉนั้น ท่านเจ้าภาพได้จัดให้มีพระธรรมเทศนาสอนนาคดังนี้ ย่อมถูกต้องตามประเพณีครั้งพุทธกาล สมัยพุทธกาลธรรมดาบุคคลผู้ใดที่จะได้บรรพชา อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ก็จะต้องได้ฟังพระธรรมเทศนาก่อน คือจะต้องได้ฟังพระธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบ้าง พระสาวกบ่้าง ตัวอย่างเช่น ภิกษุปัจจวัคีย์ทั้ง ๕ ก็ได้ฟังพระธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยพระธัมจักรกัปปวัฒนสูตร จนได้ดวงตาเห็นธรรม จนได้ขอเอหิภิกขุอุปสัมปทา เป็นพระภิกษุในสำนักพระศาสดา ดังนี้เป็นตัวอย่าง ผู้ได้ฟังธรรมของพระสาวกนั้น เช่นพระสารีบุตร เมื่อยังเป็นคฤหัสถ์ชื่อว่า อุปติสสารีบุตรปริพพาชก ได้ฟังธรรมจากพระอัสสชิ แสดงอริยสัจสี่โดยย่อว่า ธรรมได้เกิดจากเหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุแห่งธรรมนั้น และความดับแห่งธรรมนั้น พระศาสดาทรงสั่งสอนดังนี้ อุปติสสารีบุตรได้ฟังธรรมก็ทราบว่า ในศาสนานี้ แสดงว่าธรรมทั้งปวงเกิดแต่เหตุ และจะสงบระงับไปเพราะดับเหตุก่อน พระศาสดาทรงสั่งสอนให้ปฎิบัติ เพื่อสงบระงับเหตุแห่งธรรมเป็นเครื่องก่อให้เกิดทุกข์ ได้ดวงตาเห็นธรรมว่า ส่ิงใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดต้องมีความดับเป็นธรรมดา จึงศรัทธาเลื่อมใสพาบริวาร ๒๕๐ คนไปขอเอหิภิกขุอุปสมบทต่่อพระพักตร์พระศาสดา ดังนี้เป็นตัวอย่าง ฉนั้นที่่ท่านเจ้าภาพได้มีพระธรรมเทศนา ให้บุตรหลานของตนได้สดับก่อนเช่นนี้ นับว่าถูกต้องตามประเพณีครั้งพุทธกาลดังแสดงมาแล้ว
บัดนี้ อาตมาจะได้สังวรณาตามบาทพระคาถา ที่ยกขึ้นไว้เป็นนิกเขปบทเบื้องต้นว่า กิจฺโฉ มนุสฺสปฎิลาโภ อธิบายว่า การที่จะได้กำเนิดเกิดเป็นมนุษย์เป็นชาติที่สูงกว่าเดรัจฉาน เป็นของหาได้ยาก เพราะต้องอาศัยปุพเพกตปญญตา คือความดีที่ตนได้สร้างสมอบรมมาแต่ชาติปางก่อน จึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีร่างกายบรุิสุทธิ์บริบรูณ์ อวัยวะไม่บกพร้อง ไม่ใบ้บ้าเสียจริตผิดมนุษย์ธรรมดา เป็นสิงที่หาได้ยากประการหนึ่ง กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ เกิดมาแล้วการที่่จะรักษาชีวิตให้ดำรงคงทนมาได้ถึงเพียงนี้ ก็นับว่าเป็นของหาได้ยาก เพราะคนที่เกิดมาใหม่ๆ มีร่างกายอ่อนแอไม่สามารถจะทนทานต่อธรรมชาติ คือดินฟ้าอากาศ หนาวและร้อน โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ มักตายเสียแต่เด็กโดยมาก หรือมีวาสนาบารมีน้อยจึงเป็นเหตุให้อายุสั้นพลันตายแต่วัยเยาว์ จึงว่าชีวิตเป็นสิ่งหาได้ยากดังนี้ประการหนึ่ง กิจฺโฉ พุทฺธามนุปฺปาโท การที่จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขี้นในโลก แต่ละพระองค์ๆนั้น เป็นสิ่งที่สัตว์จะพึงหาได้โดยยาก เพราะพระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีมานับด้วยแสนกัปป์ บางพระองค์ทรงสร้างพระบารมีถึง ๔ อสงไขย ยิ่งด้วยกำไรอีกแสนกัลป์ บางพระองค์ถึง ๘ อสงไขย ยิ่งด้วยกำไรอีกแสนกัลป์ บางพระองค์ถึง ๑๖ อสงไขย ยิ่งด้วยกำไรอีกแสนกัลป์ ด้วยเหตุดังนี้ไซร้ จึงยากนักที่สัตว์จะได้มีโอกาสเกิดมาประสบพบพระองค์ จึงว่าพระชินสีห์บรมศาสดาน้ันยากนักยากหนา ที่จะทรงอุบ้ติขึ้นในโลกแต่ละพระองค์ กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ อนึ่งเล่าพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสรรพสัตว์ จึงย่อมจะอุบ้ติด้วยยากในโลกเช่นเดียวกัน พทฺโธ ธมฺมสฺสโพเธตา พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้ธรรม เพราะฉนั้นตราบใดที่พระพุทธเจ้ายังไม่อุบติขึ้นในโลก พระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ก็ย่อมไม่อุบัติขึ้นตามน้ันด้วยประการดังนี้ จึงเป็นการยากอย่างยิ่งที่สัตว์ทั้งหลายจะพึงได้สดับตรับฟัง และปฎิบัติตามพระธรรมคำสังสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกประการหนึงเล่า ปพฺพชิโต จ ทุลฺลโภ การที่จะได้บรรพชาอปสมบทในศาสนาธรรมวินัยของสมเด็จพระชินวรศาสดา ก็เป็นโอกาสที่จะพึงหาได้ยาก เพราะว่าโอกาสกาลสมัยที่จะได้พบพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นผู้ตรัสรู้ธรรมนั้นมีน้อยนักหนา บางคนเกิดมาตั้งหลายแสนชาติ ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้พบพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า และไม่ได้บรรพชาอุปสมบทเสียก็มากมายเหลือที่จะคณนา สทฺธาสมฺปนฺโน จ ทุลฺลโภ อีกประการหนึ่งเล่า มนุษย์ชนที่เกิดมาในโลกนี้ แม้ว่าจะได้เกิดมาทันพระพุทธศาสนา มีโอกาสได้เสวนาฟังธรรมเทศนากับทั้งเป็นบุรุษเพศอันนับเป็นพิเศษควรแก่บรรพชากิจ หากว่าเป็นผู้มีจิตใจไม่เลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัยทั้ง ๓ ประการ ก็ไม่ควรมีสมญาบรรหารว่า เป็นผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยศรัทธา มนุษยชนที่เกิดมาจะได้บรรพชาอุปสมบทแต่ละคนนั้น เป็นการยากอย่างยิ่ง ชาติวุฑฺโฒ คือ จักต้องเป็นผู้เจริญแล้วโดยชาติกำเนิด เกิดเป็นมนุษย์อันนับว่าเป็นชาติที่สูงสุดกว่าดิรัจฉาน กับทั้งเป็นผู้มีร่างกายไม่วิกลวิการวิปริตผิดธรรมดา เช่นเป็นบ้าวิกลจริต หรือเป็นโรคภัยอันร้ายกาจซึ่งอาจติดต่อกันได้ ต้องเป็นไท คือไม่มีหนี้สินติดตัว เหล่านี้เป็นต้น วยวุฑฺโต อีกประการหนึ่ง จะต้องเป็นผู้เจริญแล้วด้วยวัยคือ อายุครบ ๒๐ ปี อันจำเป็นต้องมีสำหรับบรรพชากิจ คือต้องมีชนม์ชีพชีวิตอยู่ยั่งยืนตลอดมา ถ้าแม้มามรณาเสียแต่ยังเยาว์ไม่ทันจะย่างเข้าสู่กำหนด ๒๐ ปี หรือบางคนก็ดับสูญชีวิตเสียแต่อยู่ในครรภ์มารดา บางคนคลอดออกมาได้ ๒ วัน ๓ วัน ไม่ทันจะเติบใหญ่ บางคนก็อยู่จนโตก็มาตายเสียก่อนครบกำหนดบวชเช่นนี้ น่าสลดเป็นนักหนา เพราะไม่ทันจะได้บรรพชาอปสมบทก็มาสิ้นชีพวายชนม์ลงเสียก่อน คุณวุฑโฒ อีกประการหนึ่ง ต้องเป็นผุูู้เจริญด้วยคุณสมบัติบางประการ ต้องเกิดมาได้ผ่านพบพระพุทธศาสนา มีบิดามารดาเป็นสัมมาทิฎฐิ เห็นชอบตามทำนองคลองธรรม จึงได้ชักนำให้บุตรเป็นผู้มีความเห็นชอบ อันเป็นอุปกรณ์ประกอบให้บุตรเป็นผู้มีความเชื่อถือ ความเลื่อมใสในพระคุณพระรัตนตรัย ถ้าบุคคลที่เกิดมาในโลกนี้ขาดจากคุณธรรมทั้ง ๓ประการ คือ ความเป็นผู้เจริญแล้วโดยชาติ โดยวัย โดยคุณ แต่อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว จะไม่มีโอกาสได้บรรพชาอุปสมบทอันเป็นการบำเพ็ญพรตอย่างยอดเยี่ยม ในพระพุทธศาสนา กล่าวคือ แม้จะเป็นผู้เจริญแล้วโดยชาติกำเนิเกิดมาเป็นมนุษย์กับทั้งมีเพศเป็นบุรุษอันควรแก่บรรพชากิจ แต่ถ้ามาแตกกายทำลายชีวิตแต่ก่อนถึงกำหนด ก็นับว่าเป็นอันหมดโอกาสที่จะได้บรรพชาอุปสมบท หรือมาตรแม้ว่าจะดำรงชีพอยู่ได้ตลอดมาจนเติบใหญ๋อันนับว่าเป็นผู้บริบูรณ์แล้วด้วยวัยก็ดี แต่ถ้าเกิดมาในสกุลที่ไม่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา จีงไม่นำพาในการบรรพชาอุปสมบท บุคคลผู้ใดได้กำเนิดมาในสกุลเห็นปานนี้ ก็ย่อมไม่มีโอกาสจะได้บรรพชาอุปสมบท ต่อเมื่อได้เกิดมาพร้อมด้วยขณะ สมัย วัย และคุณ ทุกสิ่งทุกประการไม่บกพร่องคือในเบื้องต้นต้องได้กำเนิดเกิดเป็นมนุษย์มีเพศเป็นบุรษ และต้องเป็นบุตรแห่งสกุลที่เป็นสัมมาทิฎฐิ และต้องมีวัยอายุกาลผ่านพ้นมาได้ถึง ๒๐ ปีบริบูรณ์อันทั้งต้องประกอบด้วยคุณสมบัติบางประการ คือได้ผ่านพระพุทธศาสนาและได้อบรมศึกษาในสัมมาปฎิบัตเป็นต้น จึงจะอำนวยผลให้ได้บรรพชาอุปสมบทอันเป็นอุดมพรตอย่างยอดเยี่ยม ในพระบวรพุทธศาสนาดังพรรณามาแล้วแต่หนหลัง
การบวช ถ้าบวชเป็นสามเณร เรียกว่า บรรพชา ถ้าบวชเป็นพระเรียกว่า อุปสมบท เป็นประเพณีของชาวไทย เมื่อชายมีอายุ ๒๐ ปีบริบรูณ์ ซึงเป็นอายุอยู่ในเกณฑ์ที่ถือกันว่า มีจิตใจหนักแน่น อดทนต่อความหิวกระหายและอื่นๆ ได้ ก็เตรียมตัวบวช เตรียมเครื่องอัฎบริขาร มีบาตรผ้าไตรจึวร เป็นต้น ครบบริขาร ๘ อย่าง แล้วผู้ปกครองต้องนำลูกหลานทีจะบวชไปฝากอยู่กับพระเพื่อท่องคำขานนาค และฝึกหัดซ้อมวิธีบวชในเวลาอันสมควร ตอนนี้เรียกว่านาคนี้มีความสำคัญมากกำลังมีสง่าราศีห้ามเที่ยวเตร่ เพราะถ้าไปมีเรื่องขึ้นก็จะไม่ได้บวช ผู้ปกครองจึงกวดขันลูกหลานตอนเป็นนาคมาก คำว่า นาค แปลว่า ผู้ประเสริญ ผู้ไม่ทำบาป หมายความว่าผู้ที่จะบวชเป็นผู้ประเสริฐ เป็นผู้ไม่ทำบาป ผู้บวชต้องดำรงภาวะเป็นภิกษุในพระพุทธศาสนา เรียก ผู้บวชนั้นว่าพระ เพราะเป็นผู้ประเสริฐ ผู้ที่จะเป็นพระที่ดีน้ันจะต้องเป็นผู้ที่ได้ยินได้ฟังได้เล่าเรียน ศึกษาพระธรรมวินัยแล้ว ประพฤติปฎิบัติตาม จึงจะเป็นผู้ประเสริฐ
ฉนั้น ท่านเจ้าภาพได้จัดให้มีพระธรรมเทศนาสอนนาคดังนี้ ย่อมถูกต้องตามประเพณีครั้งพุทธกาล สมัยพุทธกาลธรรมดาบุคคลผู้ใดที่จะได้บรรพชา อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ก็จะต้องได้ฟังพระธรรมเทศนาก่อน คือจะต้องได้ฟังพระธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบ้าง พระสาวกบ่้าง ตัวอย่างเช่น ภิกษุปัจจวัคีย์ทั้ง ๕ ก็ได้ฟังพระธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยพระธัมจักรกัปปวัฒนสูตร จนได้ดวงตาเห็นธรรม จนได้ขอเอหิภิกขุอุปสัมปทา เป็นพระภิกษุในสำนักพระศาสดา ดังนี้เป็นตัวอย่าง ผู้ได้ฟังธรรมของพระสาวกนั้น เช่นพระสารีบุตร เมื่อยังเป็นคฤหัสถ์ชื่อว่า อุปติสสารีบุตรปริพพาชก ได้ฟังธรรมจากพระอัสสชิ แสดงอริยสัจสี่โดยย่อว่า ธรรมได้เกิดจากเหตุ พระศาสดาทรงแสดงเหตุแห่งธรรมนั้น และความดับแห่งธรรมนั้น พระศาสดาทรงสั่งสอนดังนี้ อุปติสสารีบุตรได้ฟังธรรมก็ทราบว่า ในศาสนานี้ แสดงว่าธรรมทั้งปวงเกิดแต่เหตุ และจะสงบระงับไปเพราะดับเหตุก่อน พระศาสดาทรงสั่งสอนให้ปฎิบัติ เพื่อสงบระงับเหตุแห่งธรรมเป็นเครื่องก่อให้เกิดทุกข์ ได้ดวงตาเห็นธรรมว่า ส่ิงใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดต้องมีความดับเป็นธรรมดา จึงศรัทธาเลื่อมใสพาบริวาร ๒๕๐ คนไปขอเอหิภิกขุอุปสมบทต่่อพระพักตร์พระศาสดา ดังนี้เป็นตัวอย่าง ฉนั้นที่่ท่านเจ้าภาพได้มีพระธรรมเทศนา ให้บุตรหลานของตนได้สดับก่อนเช่นนี้ นับว่าถูกต้องตามประเพณีครั้งพุทธกาลดังแสดงมาแล้ว
บัดนี้ อาตมาจะได้สังวรณาตามบาทพระคาถา ที่ยกขึ้นไว้เป็นนิกเขปบทเบื้องต้นว่า กิจฺโฉ มนุสฺสปฎิลาโภ อธิบายว่า การที่จะได้กำเนิดเกิดเป็นมนุษย์เป็นชาติที่สูงกว่าเดรัจฉาน เป็นของหาได้ยาก เพราะต้องอาศัยปุพเพกตปญญตา คือความดีที่ตนได้สร้างสมอบรมมาแต่ชาติปางก่อน จึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่มีร่างกายบรุิสุทธิ์บริบรูณ์ อวัยวะไม่บกพร้อง ไม่ใบ้บ้าเสียจริตผิดมนุษย์ธรรมดา เป็นสิงที่หาได้ยากประการหนึ่ง กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ เกิดมาแล้วการที่่จะรักษาชีวิตให้ดำรงคงทนมาได้ถึงเพียงนี้ ก็นับว่าเป็นของหาได้ยาก เพราะคนที่เกิดมาใหม่ๆ มีร่างกายอ่อนแอไม่สามารถจะทนทานต่อธรรมชาติ คือดินฟ้าอากาศ หนาวและร้อน โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ มักตายเสียแต่เด็กโดยมาก หรือมีวาสนาบารมีน้อยจึงเป็นเหตุให้อายุสั้นพลันตายแต่วัยเยาว์ จึงว่าชีวิตเป็นสิ่งหาได้ยากดังนี้ประการหนึ่ง กิจฺโฉ พุทฺธามนุปฺปาโท การที่จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขี้นในโลก แต่ละพระองค์ๆนั้น เป็นสิ่งที่สัตว์จะพึงหาได้โดยยาก เพราะพระองค์ทรงบำเพ็ญพระบารมีมานับด้วยแสนกัปป์ บางพระองค์ทรงสร้างพระบารมีถึง ๔ อสงไขย ยิ่งด้วยกำไรอีกแสนกัลป์ บางพระองค์ถึง ๘ อสงไขย ยิ่งด้วยกำไรอีกแสนกัลป์ บางพระองค์ถึง ๑๖ อสงไขย ยิ่งด้วยกำไรอีกแสนกัลป์ ด้วยเหตุดังนี้ไซร้ จึงยากนักที่สัตว์จะได้มีโอกาสเกิดมาประสบพบพระองค์ จึงว่าพระชินสีห์บรมศาสดาน้ันยากนักยากหนา ที่จะทรงอุบ้ติขึ้นในโลกแต่ละพระองค์ กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ อนึ่งเล่าพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสรรพสัตว์ จึงย่อมจะอุบ้ติด้วยยากในโลกเช่นเดียวกัน พทฺโธ ธมฺมสฺสโพเธตา พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้ธรรม เพราะฉนั้นตราบใดที่พระพุทธเจ้ายังไม่อุบติขึ้นในโลก พระธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ก็ย่อมไม่อุบัติขึ้นตามน้ันด้วยประการดังนี้ จึงเป็นการยากอย่างยิ่งที่สัตว์ทั้งหลายจะพึงได้สดับตรับฟัง และปฎิบัติตามพระธรรมคำสังสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกประการหนึงเล่า ปพฺพชิโต จ ทุลฺลโภ การที่จะได้บรรพชาอปสมบทในศาสนาธรรมวินัยของสมเด็จพระชินวรศาสดา ก็เป็นโอกาสที่จะพึงหาได้ยาก เพราะว่าโอกาสกาลสมัยที่จะได้พบพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นผู้ตรัสรู้ธรรมนั้นมีน้อยนักหนา บางคนเกิดมาตั้งหลายแสนชาติ ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้พบพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า และไม่ได้บรรพชาอุปสมบทเสียก็มากมายเหลือที่จะคณนา สทฺธาสมฺปนฺโน จ ทุลฺลโภ อีกประการหนึ่งเล่า มนุษย์ชนที่เกิดมาในโลกนี้ แม้ว่าจะได้เกิดมาทันพระพุทธศาสนา มีโอกาสได้เสวนาฟังธรรมเทศนากับทั้งเป็นบุรุษเพศอันนับเป็นพิเศษควรแก่บรรพชากิจ หากว่าเป็นผู้มีจิตใจไม่เลื่อมใสในคุณพระรัตนตรัยทั้ง ๓ ประการ ก็ไม่ควรมีสมญาบรรหารว่า เป็นผู้ถึงพร้อมแล้วด้วยศรัทธา มนุษยชนที่เกิดมาจะได้บรรพชาอุปสมบทแต่ละคนนั้น เป็นการยากอย่างยิ่ง ชาติวุฑฺโฒ คือ จักต้องเป็นผู้เจริญแล้วโดยชาติกำเนิด เกิดเป็นมนุษย์อันนับว่าเป็นชาติที่สูงสุดกว่าดิรัจฉาน กับทั้งเป็นผู้มีร่างกายไม่วิกลวิการวิปริตผิดธรรมดา เช่นเป็นบ้าวิกลจริต หรือเป็นโรคภัยอันร้ายกาจซึ่งอาจติดต่อกันได้ ต้องเป็นไท คือไม่มีหนี้สินติดตัว เหล่านี้เป็นต้น วยวุฑฺโต อีกประการหนึ่ง จะต้องเป็นผู้เจริญแล้วด้วยวัยคือ อายุครบ ๒๐ ปี อันจำเป็นต้องมีสำหรับบรรพชากิจ คือต้องมีชนม์ชีพชีวิตอยู่ยั่งยืนตลอดมา ถ้าแม้มามรณาเสียแต่ยังเยาว์ไม่ทันจะย่างเข้าสู่กำหนด ๒๐ ปี หรือบางคนก็ดับสูญชีวิตเสียแต่อยู่ในครรภ์มารดา บางคนคลอดออกมาได้ ๒ วัน ๓ วัน ไม่ทันจะเติบใหญ่ บางคนก็อยู่จนโตก็มาตายเสียก่อนครบกำหนดบวชเช่นนี้ น่าสลดเป็นนักหนา เพราะไม่ทันจะได้บรรพชาอปสมบทก็มาสิ้นชีพวายชนม์ลงเสียก่อน คุณวุฑโฒ อีกประการหนึ่ง ต้องเป็นผุูู้เจริญด้วยคุณสมบัติบางประการ ต้องเกิดมาได้ผ่านพบพระพุทธศาสนา มีบิดามารดาเป็นสัมมาทิฎฐิ เห็นชอบตามทำนองคลองธรรม จึงได้ชักนำให้บุตรเป็นผู้มีความเห็นชอบ อันเป็นอุปกรณ์ประกอบให้บุตรเป็นผู้มีความเชื่อถือ ความเลื่อมใสในพระคุณพระรัตนตรัย ถ้าบุคคลที่เกิดมาในโลกนี้ขาดจากคุณธรรมทั้ง ๓ประการ คือ ความเป็นผู้เจริญแล้วโดยชาติ โดยวัย โดยคุณ แต่อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว จะไม่มีโอกาสได้บรรพชาอุปสมบทอันเป็นการบำเพ็ญพรตอย่างยอดเยี่ยม ในพระพุทธศาสนา กล่าวคือ แม้จะเป็นผู้เจริญแล้วโดยชาติกำเนิเกิดมาเป็นมนุษย์กับทั้งมีเพศเป็นบุรุษอันควรแก่บรรพชากิจ แต่ถ้ามาแตกกายทำลายชีวิตแต่ก่อนถึงกำหนด ก็นับว่าเป็นอันหมดโอกาสที่จะได้บรรพชาอุปสมบท หรือมาตรแม้ว่าจะดำรงชีพอยู่ได้ตลอดมาจนเติบใหญ๋อันนับว่าเป็นผู้บริบูรณ์แล้วด้วยวัยก็ดี แต่ถ้าเกิดมาในสกุลที่ไม่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา จีงไม่นำพาในการบรรพชาอุปสมบท บุคคลผู้ใดได้กำเนิดมาในสกุลเห็นปานนี้ ก็ย่อมไม่มีโอกาสจะได้บรรพชาอุปสมบท ต่อเมื่อได้เกิดมาพร้อมด้วยขณะ สมัย วัย และคุณ ทุกสิ่งทุกประการไม่บกพร่องคือในเบื้องต้นต้องได้กำเนิดเกิดเป็นมนุษย์มีเพศเป็นบุรษ และต้องเป็นบุตรแห่งสกุลที่เป็นสัมมาทิฎฐิ และต้องมีวัยอายุกาลผ่านพ้นมาได้ถึง ๒๐ ปีบริบูรณ์อันทั้งต้องประกอบด้วยคุณสมบัติบางประการ คือได้ผ่านพระพุทธศาสนาและได้อบรมศึกษาในสัมมาปฎิบัตเป็นต้น จึงจะอำนวยผลให้ได้บรรพชาอุปสมบทอันเป็นอุดมพรตอย่างยอดเยี่ยม ในพระบวรพุทธศาสนาดังพรรณามาแล้วแต่หนหลัง
(โปรดติดตามตอนต่อไป)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น