พระธรรมเทศนา "ปาพจน์"
เมื่อทราบชัดว่า พระรัตนตรัยเป็นสิ่งที่หาได้ยากดังน้ันแล้ว ก็ควรจะน้อมเข้าไปในตนเพื่อให้คู่ควรแก่ขาติกำเนิดและชีวิตร่างกายของตนที่หาได้ยากและมีค่าอันสูง ร่างกายและอวัยวะส่วนหนึ่งๆ ล้วนแต่เป็นของมีค่าอันสูง เช่น เมื่อมีผู้ต้องการลูกนัยน์ตาหรือแขนขาของเราสักข้างหนึ่ง จะให้เงินเราสักหมื่นบาท เมื่อขณะที่เราจนๆ อยู่อย่างนี้ เราก็คงไม่ต้องการเงินหนึ่งหมื่ีนบาท เมื่อรวมอวัยวะทุกส่วนพร้อมด้วยร่างกาย จะรู้ดีว่ามีค่าราคาเป็นแสนๆ บาท แต่บางคราวคนที่โง่เขลามักจะตึราคาค่าตัวต่ำ เอาร่างกายไปแลกกับของที่มีราคาค่างวดต่ำ เช่น ไปลักเล็กขโมยน้อย ถึงกับถูกเจ้าทรัพย์ฆ่าตาย เช่นนี้น่าเสียดายและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำให้ตนเป็นคนโง่เขลาไร้สติปัญญาเป็นอย่างมาก และเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำตนให้เป็นคนโง่เขลาไร้สติปัญญาเป็นอย่างมาก ไม่สมกับที่ได้ชาติกำเนิดมาเป็นมนุษย์อันสูงกว่าเดียรฉาน ควรมีสติสัมปชัญญะ ระลึกถึงตัวว่าเรามีอายุยืนมาได้ถึงเพียงนี้ ก็นับว่าเป็นบุญลาภไม่ควรจะประมาทในชึวิต ควรจะหันหน้าเข้าหาหนทางทั้งแปดเส้น คือ อักฐังคิกมรรคที่พระองค์ได้ตรัสไว้ คือ สัมมาทิฎฐิ ความเห็นชอบ เห็นว่าคนเรามีกรรมเป็นของตัว ทำดีจักได้รับผลดี ทำชั่วจักได้รับผลชั่ว เมื่อทราบว่าความชั่วให้ผลเผ็ดร้อน จักได้ดำเนินในสัมมาสังกกัปปะ ดำริออกเสียจากความชั่ว นี่คือองค์ของปัญญา เมื่ือองค์ของปัญญาเกิดขึ้นแล้ว ก็จักรู้จักผิดชอบชั่วดี ก็จะได้ตั้งอยู่ในศีล คือ สัมมาวาจา เจรจาชอบ สัมมากัมมันโต ทำการงานชอบ สัมมาอาชีโว เลี้ยงชีวิตชอบ สัมมาวายาโม เพียรชอบ คือเพียรละบาปเก่าที่เคยมีมาแล้วอยู่ให้มีประจำสันดาน เรียกว่า ปะหานะปธาน เพียรระวังบาปใหม่ไม่ให้เกิดขึ้นในสันดาน เรียกว่า สังวรปธาน เมื่อบาปเก่าเบาบางหรือหมดไป บาปใหม่ก็ไม่เกิดขึ้น จิตสันดานก็ย่อมผ่องใส เมื่อจิตผ่องใสควรกระทำความเพียรให้กุศลเกิดขึ้นในสันดาน เรียกว่า ภาวนาปธาน เมื่่อกุศลเกิดขึ้นแล้วควรมีอนุรักขณาปธาน คือ เพียรรักษากุศลที่เกิดแล้วไม่ให้เสื่อม เมื่อประพฤติปฎิบัติได้ดังนี้ผลคือสุขกายสุขใจก็จะเกิดขึ้นแก่ผู้นั้น นี่เป็นความเพียรทางพระพุทธศาสนา ถ้าจะนำเอาไปใช้ในทางโลกก็จะใช้ได้ผลเป็นอย่างดี เช่น การทำนา ทำสวน เราก็จะต้องฆ่าหญ้าเก่าที่เกิดอยู่ในพื้นที่นาที่สวนเสียก่อน ต่อไปก็ควรระวังลูกหญ้าใหม่ไม่ให้เกิดขึ้น แต่นั้นที่นาที่สวนก็จะเตียนอยู่ เราก็จะไม่ปล่อยให้เตียนอยู่เปล่า ก็จะลงมือหว่านพืชพันธุ์ธัญญาหารในที่นาที่สวน เมือหว่านพืชพันธุ์ลงไปแล้วก็หมั่นรักษา เช่น น้ำมาวิดน้ำออก เมือแห้งแล้ว ไม่มีน้ำก็วิดน้ำเข้า หรือคอยรดน้ำ เมื่อมีข่าวพวกสัตว์หรือแมลงไปรบกวนก็คอยระมัดระวังให้ดี แต่นั้นพืชผลก็จะงอกงามไพบูลย์ เพราะเราทำการงานถูกต้องตามทำนองคลองธรรม และเหมาะสมแก่กาละเทศะหรือภูมิประเทศเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ แต่น้ันก็เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ไปด้วยทรัพย์สมบัติ เมื่อทรัพย์สมบัติไพบูลย์ก็จะตั้งอยู่ในความสุขความเจริญ จะเห็นได้ว่าคำสอนทางพระพุทธศาสนาเป็นของใช้ได้ทั้งทางโลกทางธรรม ฉนั้น ควรจะนำเอาไปปฎิบัติ สัมมาสติ ระลึกชอบ ระลึกไปในทางที่ดี สัมมมาสมาธิ ตั้งใจชอบ ชอบในที่นี้หมายถึงชอบด้วยธรรมะ ไม่ใช่ชอบตามใจตน ผู้ใดปฎิบัติตามศีลสมาธิ ปัญญา ได้ดังกล่าวมานี้ ก็จะได้รับความเจริญทั้งทางโลกทางธรรม สมตามความปรารถนาอันเป็นจุดหมายปลายทาง คือ ความอุดมสมบรูณ์พูนสุขตามอานิสงส์ ศีลที่ท่านกล่าวไว้ว่า สีเลน สุคติ ยนฺติ ผู้ที่จะมีความสุขได้ทั้งชาตินี้และชาติหน้าก็อาศัยศีลบริสุทธิ์ สีเลน โภคสัมปทา ผู้ที่สมบูรณ์ด้วยโภคทรัพย์ก็เพราะมั่นอยู่ในศีล สีเลน สุคตึ ยนฺติ ผู้ที่จะมีความสุขได้ทั้งชาตินี้และชาติหน้าก็เพราะมั่นอาศัยศีลบริสุทธิ์ ฉนั้น ขอให้ท่านท้ังหลายจงมั่นอยู่ในศีลและธรรมก็จะได้รับประโยชน์สองประการ คือ ทิฎฐิํมมิถัตถประโยชน์ ประโยชน์ในชาตินี้ สัมปรายิกัตถประโยชน์ คือ ประโยชน์ในชาติหน้า การที่ได้ชาติกำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว ควรจะถือเอาประโยชน์ทั้งสองประการดังพรรณามาแล้ว อย่าให้เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนาที่เป็นของหาได้ยาก จึงควรปฎิบัติตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คำสอนในพระพุทธศาสนาถึงจะมีมากมายก็จริง ถ้าสรุปความให้สั้นก็มีอยู่สองประการ คือ ละความชั่วหนึ่ง บำเพ็ญดีหนึ่ง ตามบาลีกล่าวว่า สพฺพปาปสฺส อกรณํ จงละเสียซึงบาปน้อยใหญ่ด้วย กาย วาจา ใจ กุสลสฺสูปสมมฺทา จงบำเพ็ญกุศลน้อยใหญ่ด้วย กาย วาจา ใจ สจิตฺตปริโยทปนํ จงตามรักษาจิตของตนให้บริสุทธิ์ผ่องใส เอตํ พุทธานสาสนํ นี่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทุกๆ พระองค์มาด้วยประการฉะนี้
อกุศล กรรมทำได้โดยทุจริต ย่อมตามติดทุกก้าวเข้าล้างผลาญ
เหมือนเงาดำสนิทติดประจาน จนวายปราณปรางค์จากสุขทุกข์ประจำ
กุศลกรรมทำไว้ด้วยสุจริต ย่อมตามติดชูชุบอุปถุัมภ์
เหมือนร่มเงา ณ สภาสง่างาม แสนชุ่มฉ่ำเปรมสุขทุกทิวา
พระครูทักษิณานุกิจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น